หากคุณเคยวางแผนจะซื้อรถยนต์ แต่ติดปัญหาวงเงินสินเชื่อที่ขอไม่พอกับราคารถ หรือมีเครดิตที่ยังไม่แข็งแรงพอ อาจเคยได้ยินคำว่า “รถกู้ร่วม” ผ่านหูมาบ้างแล้วใช่ไหม? การกู้ร่วมเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่ต้องการซื้อรถ แต่ต้องการแบ่งภาระหรือเพิ่มโอกาสให้สินเชื่อผ่านง่ายขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับความหมายและรายละเอียดของ รถ กู้ร่วม ว่าเหมาะกับใคร และใครสามารถทำได้บ้าง พร้อมคำแนะนำแบบเจาะลึก
รถกู้ร่วม คืออะไร
รถกู้ร่วม คือ การขอสินเชื่อรถยนต์ที่มีผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วมในการยื่นขอสินเชื่อร่วมกัน โดยทั้งสองคนจะมีส่วนร่วมในการชำระหนี้สินเชื่อ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้การอนุมัติสินเชื่อผ่านง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้กู้หลักมีเครดิตไม่เพียงพอ หรือรายได้ไม่ครอบคลุมค่างวดรถยนต์
ตัวอย่างสถานการณ์ที่ต้องใช้การกู้ร่วม :
- คุณอยากซื้อรถยนต์ราคาสูง แต่รายได้ต่อเดือนของคุณไม่ครอบคลุมยอดผ่อน
- มีประวัติทางการเงินที่อาจไม่แข็งแรง เช่น เครดิตบูโรไม่ดี
- ต้องการลดความเสี่ยงและภาระในการชำระหนี้ ด้วยการมีผู้ช่วยร่วมรับผิดชอบ
ใครสามารถ รถ กู้ร่วม ได้บ้าง
- คู่สมรสหรือคนในครอบครัว
ผู้ที่สามารถกู้ร่วมได้มักจะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้กู้หลัก เช่น สามี-ภรรยา บิดา-มารดา หรือพี่น้อง เพราะธนาคารมักต้องการผู้กู้ร่วมที่มีความสัมพันธ์และมีความรับผิดชอบร่วมกัน - เพื่อนหรือคู่รัก (ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส)
ในบางกรณี เพื่อนหรือแฟนที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสก็สามารถเป็นผู้กู้ร่วมได้ แต่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคาร และอาจต้องแสดงหลักฐานการมีส่วนร่วมทางการเงิน เช่น การแบ่งปันค่าใช้จ่ายร่วมกัน - บุคคลที่มีความน่าเชื่อถือทางการเงิน
ผู้กู้ร่วมควรเป็นคนที่มีประวัติทางการเงินดี ไม่มีหนี้สินเกินตัว และมีรายได้ที่สามารถช่วยสนับสนุนการชำระหนี้สินเชื่อร่วมกับผู้กู้หลักได้
ข้อดีของการกู้ร่วมซื้อรถ
- เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
หากผู้กู้หลักมีรายได้ไม่เพียงพอหรือมีปัญหาเครดิตบูโร การมีผู้กู้ร่วมที่มีเครดิตดีและรายได้เสริมจะช่วยให้ธนาคารมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น - ลดภาระการผ่อนชำระรายเดือน
การกู้ร่วมช่วยกระจายความรับผิดชอบในการชำระค่างวดระหว่างผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม ทำให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนเบาลง - สามารถซื้อรถยนต์ในรุ่นหรือราคาที่ต้องการได้
ในกรณีที่รถยนต์มีราคารวมสูงกว่าที่ผู้กู้หลักสามารถจ่ายได้ การกู้ร่วมช่วยเพิ่มโอกาสในการเลือกซื้อรถยนต์ในรุ่นหรือแบรนด์ที่ต้องการ - ลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
ด้วยความร่วมมือจากผู้กู้ร่วม ทำให้ลดโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ได้
ข้อเสียของการกู้ร่วมซื้อรถ
- ผู้กู้ร่วมต้องมีภาระผูกพันทางกฎหมาย
ผู้กู้ร่วมจะต้องรับผิดชอบร่วมกันในการชำระหนี้ หากผู้กู้หลักผิดนัดชำระหนี้ ผู้กู้ร่วมจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด - อาจเกิดความขัดแย้งในอนาคต
ในกรณีที่ผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วมมีความขัดแย้งกันในอนาคต อาจเกิดปัญหาในการแบ่งภาระการชำระหนี้ - เครดิตบูโรอาจได้รับผลกระทบ
หากการผ่อนชำระไม่ตรงตามกำหนด ผู้กู้ร่วมอาจถูกบันทึกในเครดิตบูโรว่าเป็นหนี้เสียเช่นเดียวกับผู้กู้หลัก - การกู้ร่วมต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม
กระบวนการขอสินเชื่อกู้ร่วมอาจต้องใช้เอกสารมากขึ้น เช่น หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับ รถ กู้ร่วม
สำหรับผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม จะต้องเตรียมเอกสารดังนี้:
- เอกสารส่วนตัว
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงรายได้
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
- สำเนาบัญชีธนาคารที่แสดงรายได้ย้อนหลัง
- หนังสือรับรองเงินเดือน (ถ้ามี)
- เอกสารรถยนต์
- ใบเสนอราคารถยนต์ (สำหรับรถใหม่)
- เล่มทะเบียนรถ (สำหรับรีไฟแนนซ์หรือรถมือสอง)
- เอกสารเพิ่มเติม (ถ้าจำเป็น)
- หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม เช่น ทะเบียนสมรส สูติบัตร หรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับในการขอสินเชื่อ รถ กู้ร่วม
- เลือกผู้กู้ร่วมที่มีเครดิตดี
ผู้กู้ร่วมที่มีประวัติการเงินดี เช่น ไม่มีหนี้เสีย หรือมีรายได้สูง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ - วางแผนการชำระหนี้ร่วมกัน
ควรมีการพูดคุยและตกลงเกี่ยวกับการแบ่งภาระการชำระหนี้ เพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต - ตรวจสอบรายละเอียดในสัญญา
อ่านเงื่อนไขในสัญญาสินเชื่อให้ละเอียด โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้กู้ร่วม - เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
การมีเอกสารครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการพิจารณาสินเชื่อเร็วขึ้น - เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคาร
ก่อนตัดสินใจยื่นสินเชื่อ ควรเปรียบเทียบดอกเบี้ยและเงื่อนไขจาก ตารางสินเชื่อรถยนต์ ของธนาคารหลายแห่ง เพื่อหาตัวเลือกที่ดีที่สุด
ตัวเลือกธนาคารสำหรับการกู้ร่วมซื้อรถ
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
- เสนอสินเชื่อรถยนต์ที่รองรับการกู้ร่วม พร้อมดอกเบี้ยที่แข่งขันได้
- ธนาคารกสิกรไทย (KBank)
- มีบริการสินเชื่อรถยนต์ทั้งสำหรับรถใหม่และรถมือสอง พร้อมเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น
- ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
- เด่นเรื่อง สินเชื่อรถยนต์ ttb ดอกเบี้ย ต่ำและระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน
- กรุงศรี ออโต้
- ให้บริการสินเชื่อรถยนต์แบบครบวงจร และรองรับการกู้ร่วมสำหรับทุกประเภท
ความแตกต่างระหว่าง “กู้ร่วม” กับ “ผู้ค้ำประกัน”
หนึ่งในคำถามที่หลายคนมักสงสัยคือ การกู้ร่วมและการเป็นผู้ค้ำประกันนั้นต่างกันอย่างไร แม้ว่าทั้งสองกรณีจะเกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แต่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนในเรื่องของความรับผิดชอบ:
- กู้ร่วม:
- ผู้กู้ร่วมจะมีชื่ออยู่ในสัญญาสินเชื่อรถยนต์ และมีส่วนร่วมในภาระการผ่อนชำระเงินกู้
- มีความรับผิดชอบต่อหนี้ร่วมกันกับผู้กู้หลัก หากผู้กู้หลักไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้กู้ร่วมจะต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน
- ผู้กู้ร่วมมีโอกาสได้ใช้รถยนต์ร่วมกับผู้กู้หลัก โดยขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างกัน
- ผู้ค้ำประกัน:
- ผู้ค้ำประกันเป็นบุคคลที่ให้การสนับสนุนในฐานะผู้รับผิดชอบสำรอง กรณีที่ผู้กู้หลักผิดนัดชำระหนี้
- ไม่มีส่วนร่วมในความเป็นเจ้าของรถยนต์ และไม่ได้มีชื่ออยู่ในสัญญาสินเชื่อ
- ผู้ค้ำประกันจะต้องชำระหนี้แทนผู้กู้หลักเฉพาะในกรณีที่ผู้กู้หลักผิดนัดเท่านั้น
กรณีศึกษา เหตุการณ์ที่การกู้ร่วมช่วยแก้ปัญหา
กรณีที่ 1: เพิ่มโอกาสให้สินเชื่อผ่าน
“คุณเอ็ม” เป็นพนักงานประจำที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน และต้องการซื้อรถยนต์ในราคารวม 800,000 บาท แต่หลังจากส่งเอกสารไปยังธนาคาร พบว่าวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติให้ไม่ครอบคลุมราคารถ เนื่องจากรายได้ของคุณเอ็มไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ เมื่อพิจารณาเพิ่ม “คุณบี” ซึ่งเป็นพี่ชายที่มีรายได้เสริมจากธุรกิจส่วนตัวเข้ามาเป็นผู้กู้ร่วม ธนาคารจึงอนุมัติสินเชื่อครบตามจำนวนที่ต้องการ
กรณีที่ 2: ลดภาระการผ่อนชำระรายเดือน
“คุณแอน” และ “คุณจอย” เป็นคู่สมรสที่กำลังมองหารถยนต์สำหรับการใช้งานครอบครัว แม้รายได้ของคุณแอนเพียงพอที่จะขอสินเชื่อเอง แต่การเพิ่มคุณจอยเป็นผู้กู้ร่วมช่วยให้ธนาคารสามารถกระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น ทำให้ได้รับดอกเบี้ยต่ำลง และยอดผ่อนต่อเดือนลดลงกว่า 20%
ผลกระทบของการกู้ร่วมต่อประวัติทางการเงิน
การกู้ร่วมไม่เพียงเพิ่มโอกาสในการได้รับสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเครดิตบูโรและประวัติทางการเงินของผู้กู้ร่วมด้วย นี่คือสิ่งที่ควรรู้:
- สร้างเครดิตที่ดี:
หากการชำระหนี้เป็นไปตามกำหนด การกู้ร่วมจะช่วยเสริมเครดิตที่ดีให้ทั้งผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต - ผลเสียหากชำระล่าช้า:
หากผู้กู้หลักผิดนัดชำระหนี้ ผู้กู้ร่วมจะได้รับผลกระทบในเครดิตบูโรทันที การบันทึกข้อมูลนี้จะส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต - ความรับผิดชอบร่วมกัน:
ผู้กู้ร่วมจะต้องรับผิดชอบหนี้ในสัญญาเช่นเดียวกับผู้กู้หลัก หากมีการฟ้องร้องหรือยึดทรัพย์ ผู้กู้ร่วมจะต้องรับผลกระทบเช่นเดียวกัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ รถ กู้ร่วม
- จำเป็นต้องมีผู้กู้ร่วมเสมอหรือไม่?
ไม่จำเป็น การกู้ร่วมเหมาะสำหรับคนที่รายได้หรือเครดิตไม่เพียงพอ แต่ถ้าผู้กู้หลักมีคุณสมบัติครบถ้วน ก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้กู้ร่วม - ผู้กู้ร่วมสามารถถอนตัวได้หรือไม่?
การถอนชื่อผู้กู้ร่วมออกจากสัญญาสินเชื่อทำได้ยากและขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคาร หากต้องการถอนชื่อ อาจต้องทำการรีไฟแนนซ์ใหม่ - สามารถมีผู้กู้ร่วมมากกว่าหนึ่งคนได้หรือไม่?
ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคาร บางธนาคารอาจอนุญาตให้มีผู้กู้ร่วมมากกว่าหนึ่งคนได้ แต่ส่วนใหญ่มักจำกัดที่ 1 คน
เทคนิคการเลือกธนาคารสำหรับการกู้ร่วม
เมื่อคุณตัดสินใจว่าการกู้ร่วมเป็นทางออกที่เหมาะสม สิ่งสำคัญต่อไปคือการเลือกธนาคารที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุด นี่คือปัจจัยที่ควรพิจารณา:
- อัตราดอกเบี้ย:
เปรียบเทียบดอกเบี้ยจากธนาคารหลายแห่ง และเลือกธนาคารที่มีดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขเหมาะสม - ระยะเวลาการผ่อนชำระ:
ตรวจสอบระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ โดยคำนึงถึงทั้งผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม - โปรโมชั่นพิเศษ:
ธนาคารบางแห่งอาจมีโปรโมชั่นสำหรับการกู้ร่วม เช่น ดอกเบี้ยพิเศษ หรือการฟรีค่าธรรมเนียม - ความง่ายในการอนุมัติ:
เลือกธนาคารที่มีเงื่อนไขการอนุมัติที่ไม่ยุ่งยาก และเหมาะกับสถานการณ์ทางการเงินของคุณ
แนวโน้มการกู้ร่วมในปี 2567 – 2568
รถ กู้ร่วมร่วมยังคงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในปี 2567 – 2568 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ราคารถยนต์ยังคงปรับตัวสูงขึ้น และคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะแบ่งปันภาระทางการเงินกับคู่สมรสหรือสมาชิกในครอบครัว การกู้ร่วมช่วยให้การซื้อรถยนต์กลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้มากขึ้น
ความคุ้มค่าในอนาคต:
ด้วยเทรนด์ของรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มเข้ามามีบทบาท การกู้ร่วมอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้นในราคาที่คุ้มค่ากว่า
รถกู้ร่วมเหมาะกับใคร และทำไมถึงเป็นตัวเลือกที่ดี
รถ กู้ร่วม เหมาะกับคนที่ต้องการแบ่งภาระ หรือเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ โดยเฉพาะในกรณี ที่รายได้หรือเครดิตบูโรของผู้กู้หลัก ไม่เพียงพอ การมีผู้กู้ร่วม ที่น่าเชื่อถือช่วยเพิ่มความมั่นใจ ให้ธนาคาร พร้อมทั้งช่วยลดความเสี่ยง ในการชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจกู้ร่วม คุณควรพูดคุย และวางแผนร่วมกันกับผู้กู้ร่วม เพื่อให้มั่นใจว่า ทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึง ความรับผิดชอบ และป้องกันปัญหา ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
หากคุณสนใจ สินเชื่อรถยนต์แบบกู้ร่วม ลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากธนาคารต่าง ๆ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อเลือกตัวเลือก ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
สรุป
การกู้ร่วมเหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการแบ่งภาระการผ่อนชำระ และมีส่วนร่วมในความเป็นเจ้าของรถ ขณะที่การเป็นผู้ค้ำประกัน เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน แต่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย กับสินเชื่อโดยตรง
อ่านบทความเกี่ยวกับสินเชื่อรถกระบะเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ใส่ความเห็น